สารบัญ
การรักษาด้วย Fractora เป็นการใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าแฟรกชั่นนอล โฟโตเธอร์โมไลซิส (Fractional photothermolysis) เหมาะสำหรับผิวทุกประเภทและทุกสีผิว เนื่องจากเลเซอร์สามารถแทรกลงไปยังเนื้อเยื่อผิวหนังชั้นแท้ (Dermis) สามารถรักษาผิวทีละส่วนโดยไม่มีการรบกวนเนื้อเยื่อที่อยู่รอบ ๆ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กลการทำงานของ Fractora
การทำงานของ Fractora เป็นหนึ่งในนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรักษาปัญหาผิวหนังที่หลากหลาย รวมถึงรอยหลุมสิว ริ้วรอย และรอยแดง ด้วยการใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูง (RF) ที่ล้ำสมัย Fractora ช่วยให้ผิวหน้ากระชับ ลดการปรากฏของรอยตีนกา รอยหลุมสิว และปรับปรุงความเรียบเนียนของผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เทคโนโลยี Fractora ใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงที่ส่งผ่านหัวเข็มขนาดเล็กเพื่อสร้างความร้อนในชั้นลึกของผิวหนัง กระบวนการนี้จะกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวหน้ากระชับและลดการเกิดของริ้วรอยและรอยหลุมสิว ช่วยให้ใบหน้าดูเรียบเนียนอ่อนเยาว์
อ่านเพิ่มเติม : รักษาหลุมสิว คืออะไร
- ช่วยกระชับหลุมสิวให้ตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ให้ผิวเรียบ ดูสดชื่นและอ่อนเยาว์กว่าเดิม - ช่วยลดรอยแผลจากสิวและแผลเป็นจากการผ่าตัด
- ช่วยให้สีผิวกระจ่างขึ้นและผิวดีกว่าเดิม
- ช่วยลดริ้วรอยด่างดำ
- ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา
ใครเหมาะกับการทำ Fractora
การทำ Fractora เป็นการจัดการปัญหาผิวบนใบหน้า รวมถึงรอย หรือหลุมสิวต่าง นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่มีปัญหาเหล่านี้
- รอยแผลเป็นหลังจากเกิดสิว
- จุดด่างดำและรอยกระที่เกิดตามวัย รอยฝ้า
- รอยแผลเป็นจากสิว
- แผลเป็นจากการผ่าตัด
- กระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย
- กระชับรูขุมขน ปรับผิวหน้าให้เรียบเนียน
- ช่วยลดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- การฟื้นฟูผิวหน้า เพิ่มคุณภาพผิว ให้ผิวดูเด็กลง
- ผู้ป่วยที่ทานยา Isotretinoin ควรหยุดยาอย่างน้อย 6 เดือนก่อนรักษา
- ผู้ป่วยที่ใช้ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen ควรหยุดยาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนและหลังรักษา
- ห้ามใช้ Fractora รักษาบริเวณรอยสักตามคิ้ว ขอบตา และริมฝีปากถาวร
- ผู้ป่วยที่มีการทำการผลัดผิวหน้า (Facial dermabrasion หรือ Facial resurfacing) น้อยกว่า 3 เดือนก่อนรักษา
- ผู้ป่วยที่มี Skin type VI และผิวแทนจากการอาบแดด ควรใช้ยาทำสีผิวร่วมกับ Tanning bed ซึ่งเว้นระยะห่างก่อนรักษา 2 สัปดาห์
- กรณีผู้ทำหัตถการฉีดมาก่อน ควรอยู่ในการพิจารณาของแพทย์ตามความเหมาะสม
- ห้ามใช้รักษาบริเวณขอบไรผม
- ผู้ที่ป่วยภาวะโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ที่ป่วยภาวะของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น HIV
- ผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้
ผู้รับการรักษาสามารถคาดหวังผลลัพธ์ที่ดี เช่น ผิวที่เรียบเนียนขึ้น รอยหลุมสิวและริ้วรอยลดลง และผิวหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ ผลลัพธ์อาจเริ่มปรากฏหลังจากการรักษาครั้งแรกและจะดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการรักษาหลายครั้ง แต่ระยะเวลาของผลลัพธ์ขึ้นอยู่ปัญหาของแต่ละบุคคลว่ามีจำนวนหลุมสิวลึก ตื้น หรือมากน้อยแค่ไหน จะได้รับการรักษาอย่างน้อย 4-6 ครั้ง และเว้นช่วงการรักษาประมาณ 2-3 สัปดาห์เพื่อให้ร่างกายสร้างคอลลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาทดแทนเนื้อเยื่อที่เสียหาย
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
แม้ว่า Fractora จะเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงบางอย่าง เช่น ผิวหนังแดง บวมเล็กน้อย หรือเป็นสะเก็ดในช่วงไม่กี่วันแรกหลังการรักษา
- หลังทำการรักษา อาการเจ็บจะคงอยู่ประมาณ 1-2 ชัวโมง
- เกิดอาการแดง (Erythem) ภายใน 24 ชั่วโมง
- อาจพบอาการบวมและขุยละเอียดซึ่งจะหลุดลอกในช่วง 1 – 3 สัปดาห์
- หลังทำการรักษาอาจพบสะเก็ดละเอียดขนาดเล็ก บริเวณผิวที่ทำการรักษา 7-10 วัน
เลือกรักษาด้วย Fractora ที่ไหนดี
การเลือกรักษา Fractora ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตให้เปิดคลิกอย่างถูกต้อง มีเลขสถานพยาบาล 11 หลักที่สังเกตได้ชัดเจน คลินิกสะอาด มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญที่ทำการรักษาต้องที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการรักษาด้วย Fractora เป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกสถานที่ที่มีรีวิวที่ดีจากผู้ที่ได้รับการรักษามาก่อนโดยที่เป็นรีวิวจริง เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สรุป
นวัตกรรม Fractora ช่วยรักษาหลุมสิวอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการทำงานของพลังงานคลื่นวิทยุ ผ่านมาตรฐานการรับรองจาก U.S.FDA ว่ามีความปลอดภัยจริง ช่วยรักษาปัญหาโครงสร้างผิวจากภายในและกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวหน้าแข็งแรง ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Fractora โดยตรง เพื่อผลลัพธ์ที่พึงพอใจและปลอดภัย