คาง เปรียบเสมือนเครื่องประดับของใบหน้า หากมีตำหนิ เช่น คางตัด คางบุ๋ม คางเบี้ยว ให้การฟิลเลอร์คาง ตรงเข้าแก้ไขปัญหาคางเหล่านั้นให้หมดไป เติมเต็มในส่วนที่ขาดหายหรือปรับแก้ในส่วนที่ผิดเพี้ยน หรือมีตำหนิ ทำให้คางเข้ารูป เข้ากับรูปหน้าได้มากยิ่งขึ้น เสริมให้ใบหน้าดูดี สมมาตร ดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
การฉีด ฟิลเลอร์คาง ช่วยเสริมคางยาวขึ้น ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นด้วยการใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เป็นอีกหนึ่งหัตถการ เสริมคางให้เรียวสวยที่ไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้ที่มีคุณสมบัติไม่ทำให้เกิดการแพ้ มีความคงตัว และอยู่ในร่างกายได้เป็นเวลานาน แต่ก็สามารถสลายไปเองได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิว และยังช่วยสร้างความตึงให้กับผิวหนัง ดูอ่อนเยาว์
ปัญหาคางนั้นมีหลากหลายประเภทที่สามารถพบเจอได้ แต่ไม่ว่าปัญหาแบบใด ฟิลเลอร์คางก็สามารถจัดการปัญหาคางที่เป็นความกังวล หรือสำหรับใครที่ไม่ทราบว่าคางตัวเองเข้าข่ายมีปัญหาหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ ดังนี้
เกิดจากคางที่มีลักษณะปลายคางที่สั้นมากจนมองไม่เห็นรูปคาง อยู่ใกล้ริมฝีปากมากเกินไป เกิดจากการโครงสร้างกระดูกกรามหรือขากรรไกรที่สั้น ผู้ที่มีปัญหาคางสั้นส่วนมากมักจะมาการถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือครอบครัวมีปัญหาคางสั้นเช่นกัน ส่งผลให้ส่วนเว้าส่วนโค้งของรูปหน้าผิด ดูขาดมิติและทำให้ใบหน้าดูไม่สมมาตร
เกิดจากการที่รูปกระดูก หรือกล้ามเนื้อบริเวณปลายคาง มีองศาระนาบไปกับพื้น คล้ายกับการถูกตัดคาง ส่งผลให้คางดูทื่อ ไม่เรียวยาว ทำให้ใบหน้าดูเหลี่ยม ไม่มีวีเชฟ โดยมีผลต่ออารมณ์ของใบหน้าดูขึงขัง ผู้หญิงที่มีรูปคางตัดจะทำให้ความอ่อนหวานดูลดลง
เกิดจากรูปคางที่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของปลายคางยุบเข้าไป ทำให้เกิดเป็นร่อง อาจเกิดความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกหรือกล้ามเนื้อบริเวณคางมีการดึงรั้งอย่างผิดปกติ ทำให้คางบุ๋มเข้าไปคล้ายลักษณะของก้นลูกแอปเปิ้ล ส่งผลให้หน้าดูผิดรูป ไม่อ่อนโยน
เกิดจากกระดูกปลายคางหรือขากรรไกรมีความยาวที่ผิดปกติ มีการดันยาวไปข้างหน้า ส่งผลให้รูปคางนั้นยื่นเลยสัดส่วนของใบหน้าที่เหมาะสมไป สามารถสังเกตเมื่อมองผู้ที่มีปัญหานี้จากด้านข้าง ปัญหาคางยื่นไม่ได้ส่งผลต่อรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเคี้ยวอาหารหรือการสบฟัน
ฟิลเลอร์คาง มีจุดประสงค์เพื่อเข้าไปเติมเต็มส่วนที่ขาดหรือด่างพร้อยบริเวณคาง ช่วยแก้ไขปัญหาคางตัด คางบุ๋ม คางยื่น ฯลฯ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารเลียนแบบสารตามธรรมชาติของร่างกายที่ชื่อว่าไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) สามารถทำให้คางเรียวและดูยาวขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องทำการศัลยกรรมเสริมคาง สะดวกรวดเร็ว สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใด
คางที่ดีจะต้องมีองศาที่รับกับหน้าผากและจมูกด้านข้าง เข้ากับสัดส่วนต่างๆ ของใบหน้า ตามหลักของสัดส่วนทองคำ (Golden Ratio) โดยจะแบ่งใบหน้าออกเป็น 3 ส่วน คือ หน้าผาก จมูก และคาง ให้ได้สัดส่วนเป็น 1 : 1 : 0.8 จะถือว่าเป็นสัดส่วนมาตรฐานของใบหน้าที่สวยงาม ถ้าคางยาวเกินไป อาจทำให้ใบหน้าดูเกินวัย และแข็งกร้าว หรือถ้าคางสั้นมากเกินไป จะดูหน้ากลม ดูไม่เรียวยาว หรือรูปคางที่ไม่ตรงยาวลงมา ลักษณะคล้ายคางเบี้ยว หรือกว้างเกินไป ก็อาจจะดูไม่สมส่วนได้ ดังนั้นคางที่ได้รูปจะต้องไม่สั้น หรือยาวจนเกินไป จึงจะถือว่าได้ทรงสวยงาม
เมื่อฉีดฟิลเลอร์คางเข้าไปแล้วอาจอยู่ได้นาน 12-18 เดือน เพราะคางเป็นบริเวณที่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบ่อยเหมือนกับบริเวณหน้าผากหรือบริเวณใต้ตา รวมไปถึงการฟิลเลอร์คางต้องใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง และถ้าหากดูแลตัวเองหลังฟิลเลอร์คางให้ดี อาจทำให้ฟิลเลอร์คางอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น
การผ่าตัดเสริมคาง เป็นการเสริมคางด้วยการใส่ซิลิโคน เหมาะกับคนที่มีลักษณะของคางที่สั้นมากๆ เพราะซิลิโคนจะสามารถต่อคางออกมาให้ดูยาวขึ้น มีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนซิลิโคนได้ตามต้องการหรือในกรณีที่มีการอักเสบเกิดขึ้น ความโดดเด่นของการเสริมคางนั่นคือสามารถอยู่ได้ถาวร อีกทั้งการเสริมคางมีการผ่าตัดด้วยเทคนิคพิเศษที่สามารถซ่อนรอยแผลผ่าตัดได้แตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ที่จะสลายไป สามารถปรับแต่งให้เป็นรูปทรงได้ง่าย ทำให้ใบหน้าเข้ารูป ดูมีมิติมากขึ้น แต่ฟิลเลอร์จะสามารถเสริมคางให้ยาวขึ้นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เป็นการผ่าตัดเปิดแผลจากด้านในปาก บริเวณเหงือกกับริมฝีปากล่าง โดยจะมีความยาวของแผลประมาณ 1-2 เซนติเมตร ก่อนจะนำซิลิโคนใส่เข้าไปให้พอดีกับตำแหน่งต้องการ และเย็บปิดบาดแผลด้วยไหมละลาย เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่จะทำให้ไม่เห็นรอยแผลการผ่าตัดปรากฎอยู่บนใบหน้า เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมนอย่างมาก และใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่ต้องดูแลรักษาทำความสะอาดบาดแผลภายในช่องปากให้ดี
เป็นการกรีดเปิดแผลบริเวณใต้คางความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร เพื่อนำซิลิโคนเสริมเข้าไป มีข้อดีตรงที่สามารถดูแลทำความสะอาดแผลผ่าตัดได้ง่ายกว่าแบบแรก แต่ก็ต้องแลกกับการที่รอยแผลปรากฎบริเวณใต้คาง
ผิวเป็นคลื่นจากการฉีดฟิลเลอร์นั้น เกิดจากได้หลากหลายสาเหตุ ประการแรก อาจเกิดได้จากการฉีดฟิลเลอร์เติมซ้ำลงไปทับซ้ำในบริเวณที่ฟิลเลอร์เก่ายังคงสลายไม่หมด หรือ ฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป พอเกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อจึงเกิดเป็นคลื่นขึ้นมาได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวมีสาเหตุมาจากแพทย์ที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ไม่มีความชำนาญและประสบการณ์มากพอ หรือเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ของแพทย์ที่ทำการรักษานั้นไม่ถูกต้อง
คางแม่มด เป็นลักษณะของคางที่ปูดนูนมากเกินไป สาเหตุเกิดจากการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ฉีดที่มากเกินไป จึงทำให้มีขนาดที่ใหญ่และไม่สวยงาม เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปนั้น ฟิลเลอร์จะสามารถฟูขึ้นได้อีกเล็กน้อย หรือเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้คุณภาพ อย่างเลวร้ายที่สุดคือทำการฉีดฟิลเลอร์คางด้วยฟิลเลอร์ปลอม เช่น ซิลิโคน หรือ พาราฟิน เมื่อเวลาผ่านไปแต่ฟิลเลอร์นั้นกลับไม่สลายไปเองตามธรรมชาติจึงทำให้เกิดการผิดรูปเกิดขึ้นได้
ฟิลเลอร์คาง เป็นหัตถการที่เหมาะสมกับผู้ที่มีรูปคางที่ไม่สั้นจนเกินไป เพราะการฉีดฟิลเลอร์คางด้วยปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้รูปคางผิดรูปได้ ไม่สามารถเติมคางให้ยาวลงมาได้เกิน 1 เซนติเมตร ดังนั้น การฟิลเลอร์จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม ต้องการปรับแก้รูปคางให้ยาวขึ้น ใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 CC ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้เช่นเดียวกัน
ตามหลักแล้ว ใบหน้าแต่ละคนใช้ปริมาณฟิลเลอร์ในการฉีดรักษาไม่เท่ากัน โดยส่วนมากฟิลเลอร์คาง จะใช้ฟิลเลอร์อยู่ที่ 1 CC. แต่บางคนไม่ได้ฉีดเพื่อแค่เติมคางให้ยาวขึ้นเท่านั้น แต่ต้องการปรับรูปคางให้สองข้างเท่ากัน ลดร่องน้ำหมาก เพื่อให้คางนั้นได้รูปทรงที่สวย ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น ก็จะต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ในการรักษาเพิ่มขึ้น
ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ปลอดภัยกับร่างกายของเราจริง แต่ถ้าผู้ที่ทำการฉีดหรือแพทย์ขาดความชำนาญ หรือผู้ฉีดไม่ใช่แพทย์ที่มีความรู้ไม่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ ขาดความรู้ในด้านกายวิภาค ถ้าฉีดไม่ดีอาจทำให้เกิดอันตรายได้
รวมไปถึงอาการติดเชื้อจากการฉีดฟิลเลอร์ จากการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ที่ไม่สะอาด เลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน จะมีการทำให้อักเสบ บวมแดง และเขียวช้ำมากกว่าปกติอีกด้วย
สำหรับผู้ที่ผ่านการฉีดฟิลเลอร์คางมา รู้สึกอยากมีคางที่สวยอย่างถาวร ไม่ต้องมาคอยเติมคอยฉีดซ้ำ มุ่งหน้าไปทำการศัลยกรรมเสริมคางได้ไหม สามารถทำได้นะ แต่ทางที่ควรให้ฟิลเลอร์ของเก่าสลายให้หมดเสียก่อน ถ้ารีบร้อนอยากมีคางสวยก็ต้องยอมถูกขูดฟิลเลอร์ โดยที่ต้องแจ้งแพทย์ที่ทำการศัลยกรรมคางให้ละเอียดถี่ถ้วนว่าฉีดฟิลเลอร์คางมานานแล้วแค่ไหน ฉีดของยี่ห้ออะไร เพื่อที่แพทย์จะนำไปทำการวินิจฉัยต่อไปว่าการเสริมคางต่อจากการฉีดฟิลเลอร์จะปลอดภัยหรือไม่
ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid ปลอดภัยกับร่างกายของเราจริง แต่ถ้าผู้ที่ทำการฉีดหรือแพทย์ขาดความชำนาญ หรือผู้ฉีดไม่ใช่แพทย์ที่มีความรู้ไม่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ ขาดความรู้ในด้านกายวิภาค ถ้าฉีดไม่ดีอาจทำให้เกิดอันตรายได้
รวมไปถึงอาการติดเชื้อจากการฉีดฟิลเลอร์ จากการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ที่ไม่สะอาด เลือกคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน จะมีการทำให้อักเสบ บวมแดง และเขียวช้ำมากกว่าปกติอีกด้วย
เมื่อฉีดฟิลเลอร์คางเข้าไปแล้วอาจอยู่ได้นาน 12-18 เดือน เพราะคางเป็นบริเวณที่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบ่อยเหมือนกับบริเวณหน้าผากหรือบริเวณใต้ตา รวมไปถึงการฟิลเลอร์คางต้องใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง และถ้าหากดูแลตัวเองหลังฟิลเลอร์คางให้ดี อาจทำให้ฟิลเลอร์คางอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น
ฟิลเลอร์คาง เป็นการแก้ไขปัญหาคางด้วยการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในจุดที่มีปัญหา ทำให้ได้คางเรียวสวย โดยไม่มีสารตกค้างภายในร่างกาย เพราะสามารถสลายเองได้ อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอย ทำให้ร่องลึกตื้นขึ้นได้