สารบัญ
สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาแก้มตอบ
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาแก้มตอบ คือ การยุบตัวของชั้นกล้ามเนื้อและไขมันบริเวณแก้มและขมับค่ะ ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สวยงามหรือมีลักษณะใบหน้ากระดูกขึ้น (Skull Look) โดยอาจมีปัจจัยมาจากลักษณะทางพันธุกรรมของคนไข้เองหรือผลกระทบจากโรคบางอย่างที่ทําให้สูญเสียไขมันใต้ผิว เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ นอกจากนี้ ปัญหาแก้มตอบสามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยเหล่านี้
1.น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อน้ำหนักลดจะทำให้สูญเสียชั้นไขมันตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย รวมไปถึงบริเวณใบหน้าด้วย ดังนั้น ภาวะแก้มตอบจึงสามารถเกิดจากการมีน้ำหนักตัวน้อย หรือการลดลงของน้ำหนักจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆ
2.โหนกแก้มสูง
พันธุกรรมที่แตกต่างกันได้ส่งผลถึงลักษณะโหนกแก้มของแต่ละคนด้วย โหนกแก้มที่ยกสูงจะดึงผิวหนังบริเวณแก้ม ทำให้บริเวณร่องแก้มปรากฏชัดขึ้นค่ะ
3.อายุเพิ่มขึ้น
เมื่ออายุของคนเราเพิ่มมากขึ้น จะทำให้สูญเสียไขมันที่เคยพยุงให้ผิวหนังเต่งตึงไป ผิวก็จะยุบตัวลงมาด้วย จากแก้มที่เคยดูอวบอิ่มในวัยเยาว์ก็จะดูซูบตอบลง ส่งผลทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นหรือปัญหาร่องแก้ม ที่เป็นที่มาของใบหน้าโทรม ไม่สดใส และไม่เอิบอิ่มได้ค่ะ
4.การจัดฟัน
แน่นอนว่า การจัดฟันจะทำให้ฟันเรียงชิดสวยงามมากขึ้น แต่ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครงกระดูกใบหน้าด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณแนวกราม เพราะโดยทั่วไปการจัดฟันจะใช้เวลาราว 2-4 ปี ดังนั้นกล้ามเนื้อในการเคี้ยวอาหารของคนที่จัดฟันจะลีบเล็กลง ทำให้เกิดปัญหาหน้าตอบได้
ทำไมการฉีดฟิลเลอร์สามารถแก้ปัญหาแก้มตอบได้
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบของทางคลินิกเรา จะช่วยเข้าไปเติมเต็มแอ่งบริเวณใบหน้าที่เกิดจากชั้นไขมันที่บางลง หรือ ปัญหาแก้มตอบจากพันธุกรรม ทำให้บริเวณที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบนั้น ดูตื้นขึ้นและผิวก็จะดูเรียบเนียนสวยขึ้นช่วยให้ใบหน้านั้นดูไม่โทรม ไม่แก่กว่าวัย และดูสดใสในทุกวัน หมอแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบไม่มากนะคะ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- เห็นผลทันทีหลังฉีด
- ร่องมุมปากตื้นขึ้น
- ปัญหาโหนกแก้มเด่นก็จะลดลงไป
- ช่วยปรับรูปหน้าของคนไข้ให้เป็นรูปไข่สวยงาม
- ทำให้ใบหน้าของคุณดูอ่อนเยาว์ สดใส และเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- ผลลัพธ์จะไม่อยู่ถาวร ต้องมีการกลับมาฉีดใหม่
- ถ้าไม่ได้กลับมาฉีดอย่างต่อเนื่อง ผิวบริเวณแก้มจะคืนสภาพเดิม
- มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
การปรับแต่งใบหน้าย่อมมีผลข้างเคียงตามมาเป็นปกติค่ะ โดยหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ คนไข้อาจจะมีผลข้างเคียงเล็กน้อยไปจนถึงขั้นรุนแรงมากได้ เพื่อเป็นแนวทางในการสังเกตตนเอง หมอจะบอกอาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบค่ะ
ผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง
หลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบอาจเกิดผื่นแดง จุดแดง หรือจ้ำเลือด รวมไปถึง รอยเข็มบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นปกติหลังจากการฉีดฟิลเลอร์อยู่แล้ว สามารถหายได้เองภายใน 2-3 วัน หรืออาจมีรอยแผลนูนจากการฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณมากเกินไป หรือการฉีดในตำแหน่งที่ตื้นเกินไป ซึ่งอาการเหล่านี้ถือว่าเป็นผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงมากค่ะ
ผลข้างเคียงที่รุนแรง
การฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่งในบางกรณีอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายมากต่อตัวคนไข้ เช่น การฉีดเข้าหลอดเลือด สามารถทำให้หลอดเลือดอุดตัน ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้เลยทีเดียว
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบสามารถอยู่ได้นานเท่าไร
เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นการรักษาระยะชั่วคราว เพราะสารที่ใช้จะสามารถสลายตัวไปภายใน 1-1.5 ปี ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล
ฟิลเลอร์แก้มตอบ ใช้กี่ cc
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ คนไข้ส่วนใหญ่มักจะใช้ประมาณข้างละ 1-2 ซีซี ขึ้นอยู่กับความลึกและความกว้างของร่องบริเวณแก้ม แต่ถ้าในกรณีที่ร่องบริเวณแก้มมีความลึกและกว้างกว่าปกติ อาจจะต้องใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-5 ซีซี เพื่อเติมเต็มร่องแก้มให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
อ่านเพิ่มเติม เจาะลึกฟิลเลอร์
ข้อปฏิบัติก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
ในการเตรียมตัวเพื่อการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบนั้น นอกจากคนไข้จะต้องเตรียมกำลังทรัพย์แล้ว หมอจะขอแนะนำข้อปฏิบัติเพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงหลังฉีด รวมไปถึงแนวทางการปฏิบัติตัวหลังฉีด เพื่อให้คนไข้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและพร้อมออกไปใช้ชีวิตกับใบหน้าแสนเยาว์วัยต่อไป
ข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- งดอาหารเสริมหรือยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน (Aspirin) น้ำมันปลา และ วิตามินอี
- หากต้องการทำเลเซอร์ ให้ทำเลเซอร์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3 วัน
- งดการดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การวิ่งออกกำลังกาย หรือการว่ายน้ำ เป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็น การบีบ การนวด การแกะ หรือการเกา ที่จะไปกระทบกับฟิลเลอร์
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้งดการทำทรีตเมนต์เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนของร่างกาย อย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- งดการแต่งหน้าหรือการใช้ครีมบำรุง อย่างน้อย 12 ชั่วโมง
- ควรดื่มน้ำในปริมาณมากและดื่มอย่างสม่ำเสมอ วันละ 1.5-2 ลิตร หรือประมาณ 12 แก้ว เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ ดังนั้นการดื่มน้ำจะทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูสวยขึ้น
เลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มที่ไหนดี
ในการเข้ารับการบริการเสริมความงาม คนไข้ย่อมต้องการใบหน้าหรือร่างกายที่จะช่วยเสริมความมั่นใจของตนเองให้มากขึ้น รวมไปถึงการบริการที่ปลอดภัย ดังนั้น หมอมีแนวทางเพื่อช่วยให้คนไข้ได้รับบริการการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัยค่ะ โดยคนไข้สามารถพิจารณาได้จากปัจจัยต่างๆ เช่น ประวัติของแพทย์ ข้อมูลคลินิกหรือสถานพยาบาล และรายละเอียดของฟิลเลอร์ที่ใช้ โดยมีข้อมูลดังนี้
1.ตรวจสอบประวัติของแพทย์
แพทย์ผู้ที่จะฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบให้กับคนไข้ได้ จำเป็นต้องมีใบอนุญาตการประกอบการแพทย์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ได้แก่ความรู้ในการฉีดฟิลเลอร์ที่แม่นยำ ความรู้กายวิภาค และความสามารถในการประเมินรูปร่างของคนไข้ ซึ่งจะส่งผลให้สามารถฉีดสารในปริมาณที่เหมาะสมลงในชั้นผิวหนังที่ถูกต้อง
2.ตรวจสอบฟิลเลอร์
คนไข้ควรหาและตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ชนิดต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้แน่ใจได้ว่าตนเองจะได้รับการฉีดด้วยฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นฟิลเลอร์หนึ่งเดียวที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงฟิลเลอร์ราคาถูกที่มีจำหน่ายตามเว็บไซต์ทั่วไป เพราะฟิลเลอร์เหล่านั้นอาจถูกนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย และเสี่ยงที่จะเป็นของปลอม หมดอายุ หรือไม่ได้คุณภาพค่ะ
3.สถานที่รับบริการ
ในการเลือกสถานที่ที่จะเข้าไปรับบริการหรือคลินิกเสริมความงามต่างๆ คนไข้ต้องเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตและได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัยและสามารถให้ความช่วยเหลือกับคนไข้ในกรณีฉุกเฉินได้ รวมไปถึงพนักงานภายในสถานบริการต้องมีความพร้อมในการให้บริการ ด้วยความจริงใจและสามารถให้คำปรึกษาแก่คนไข้ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง รวมไปถึงมีการติดตามผลลัพธ์หลังการบริการด้วยความใส่ใจค่ะ
การศัลยกรรมแก้มตอบ
เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ คือการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เพื่อแก้ไขปัญหาแก้มตอบให้ตื้นขึ้น ไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่เหมือนกับการศัลยกรรม จึงทำให้ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นและสามารถทำกิจกรรมต่อได้เลยหลังจากการฉีด นอกจากนี้ ยังไม่มีผลข้างเคียงที่น่ากลัวถ้าฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้
แต่หากลูกค้าต้องการการเสริมแก้มตอบที่เจ็บตัวครั้งเดียวแต่ได้ผลลัพธ์ที่ถาวร หมอขอแนะนำการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมแก้มเทียม เพราะได้ใช้วัสดุที่มีความทนทานสูง เช่น ซิลิโคนหรือกระดูกของคนไข้เอง ซึ่งเป็นการเสริมด้วยการผ่าตัดภายในช่องปาก โดยหมอจะทำการเปิดแผลบริเวณเหงือกเหนือฟันบนที่เชื่อมกับแก้ม แล้วสอดใส่วัสดุแก้มเทียมเข้าไปบริเวณกระดูกแก้มในส่วนที่ต้องการจะแก้ไขแล้วจึงทำการปิดแผล ในการศัลยกรรมนี้จะทำให้คนไข้ได้ร่องแก้มที่ตื้นตามต้องการและมีความคงทนถาวรค่ะ โดยวัสดุที่หมอใช้ในการศัลยกรรมแก้มตอบ มีได้ดังต่อไปนี้
1.เสริมกระดูกจริง : การใช้กระดูกของร่างกายคนไข้เอง เช่น บริเวณเชิงกราน แต่วิธีนี้จะเกิดแผลเป็น และเกิดความนูนของกระดูกโหนกแก้มไม่มากตามต้องการ
2.เสริมซิลิโคน : การเสริมซิลิโคนมีทั้งแบบสำเร็จรูปและเหลาเอง ซึ่งแพทย์จะพิจารณาใช้ตามความเหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละกรณีค่ะ
3.เสริม Biopolymer : เป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบได้ถาวรที่สุด เพราะมีความทนทานเหมือนกระดูกของคนไข้เอง จึงทำให้สามารลดความเสี่ยงกว่าการใช้กระดูกได้ด้วย
ทำไมการฉีดฟิลเลอร์สามารถแก้ปัญหาแก้มตอบได้
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบของทางคลินิกเรา จะช่วยเข้าไปเติมเต็มแอ่งบริเวณใบหน้าที่เกิดจากชั้นไขมันที่บางลง หรือ ปัญหาแก้มตอบจากพันธุกรรม ทำให้บริเวณที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบนั้น ดูตื้นขึ้นและผิวก็จะดูเรียบเนียนสวยขึ้นช่วยให้ใบหน้านั้นดูไม่โทรม ไม่แก่กว่าวัย และดูสดใสในทุกวัน หมอแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบไม่มากนะคะ
ฟิลเลอร์แก้มตอบ ใช้กี่ cc
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ คนไข้ส่วนใหญ่มักจะใช้ประมาณข้างละ 1-2 ซีซี ขึ้นอยู่กับความลึกและความกว้างของร่องบริเวณแก้ม แต่ถ้าในกรณีที่ร่องบริเวณแก้มมีความลึกและกว้างกว่าปกติ อาจจะต้องใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-5 ซีซี เพื่อเติมเต็มร่องแก้มให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบสามารถอยู่ได้นานเท่าไร
เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นการรักษาระยะชั่วคราว เพราะสารที่ใช้จะสามารถสลายตัวไปภายใน 12-18 เดือน ขึ้นอยู่กับรุ่นของฟิลเลอร์และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล
สรุป
การฉีด ฟิลเลอร์แก้มตอบ เป็นการใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic เพื่อเติมเต็มปัญหาแก้มตอบให้เต็มอิ่มมากยิ่งขึ้น โดยคนไข้ควรพิจารณาใบหน้าของตนเองว่าเหมาะที่จะฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบหรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสอบราคา ความคุ้มค่า ความปลอดภัย และผลข้างเคียง